::แง่ดี-แง่ร้าย::


เมื่อวานฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าคนนึงค่ะ ไม่บ่อยนักที่เพื่อนเก่าของฉันคนนี้จะโทรมาปรับทุกข์กับฉัน เพราะไม่บ่อยนักอีกเช่นกัน ที่เพื่อนเก่าของฉันคนนี้จะมีเรื่องทุกข์เข้ามาในชีวิต เพราะเค้าคนนี้เป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ บ้างสิ่งที่ช่างโหดร้าย แต่เค้าก็ยังมองว่ามันสวยงาม


แต่ในวันนี้ เพื่อนเก่าของฉันคนนี้โดนคำว่าการมองโลกในแง่ดีทำร้ายอย่างร้ายกาจ มันเลยทำให้ฉันคิดว่า การที่เรามองโลกในแง่ดีเสมอไป ก็ใช่ว่ามันจะดีเสมอไปเช่นกัน


หลายครั้งหลายหน ที่คนมองโลกในแง่ดีถูกทำร้ายจากสิ่งมีชีวิตรอบข้าง แต่ผู้คนเหล่านี้ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ได้รุนแรงอะไร และยังคิดที่จะมองโลกในแง่ดีต่อไป ถึงแม้ผู้คนเหล่านี้จะหายากในโลกยุคปัจจุบัน แต่ก็มีมากอยู่เช่นกัน


หลายครั้งหลายหน ที่คนมองโลกในแง่ร้ายถูกตำหนิติเตียนในการมองโลกและการใช้ชีวิตของเค้า แต่การมองโลกในแง่ร้ายก็เหมือนกับการมีเกาะกำบังอย่างหนึ่ง ทำให้คนเราไม่ไว้ใจใครมากเกินไป ทำให้คนเราไม่เจ็บมากเมื่อโดนใครรังแก เพราะคนเหล่านี้มักจะเตรียมตัวเตรียมใจรับกับสถาณการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ดี


แต่มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดถ้าคุณอยู่ระหว่างคำว่ามองโลกในแง่ดีและมองโลกในแง่ร้าย มันจะเป็นส่วนผสมที่เหมาะสมถ้าคุณนำทั้งสองสิ่งอย่างละครึ่งมาผสมรวมกัน ถึงแม้มันจะยากอยู่ซักหน่อยที่จะทำได้อย่างนี้ แต่ฉันก็เชื่อว่าคนเราสามารถปรับเปลี่ยนกันได้ อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่มันก็จะคุ้มค่าถ้าคุณทำได้นะคะ


สำหรับฉัน ตอนนี้ฉันก็พยายามปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในตัวฉัน ให้ดูลงตัวมากขึ้นค่ะ

No comments:

Post a Comment