::เพียงเปิดใจ::


ฉันกลับมาแล้วค่ะ กลับมาอย่างเต็มตัว แถมด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก คิดถึงกันมั้ยคะ ฉันน่ะคิดถึงพี่ๆ เพื่อนๆ มากๆ ค่ะ มีเวลาก็แวะไปเยี่ยมเยียนบางคนบ้าง แต่ไม่ค่อยได้คอมเม้นต์เท่านั้นเองล่ะค่ะ



กลับมาอีกครั้งเพราะชีวิตมันอยู่ตัวแล้ว ไม่มีอารมณ์ที่เหงาจนจับใจ ไม่มีอารมณ์ที่บ้าบอคอแตก มีเพียงอารมณ์เรื่อยๆ ค่อยๆ ผ่านไปในแต่ละวันเท่านั้น (แม้บางวันจะเหมือนคนบ้า นั่งขำอยู่ทั้งวันก็ตาม <-- อย่างนี้ฉันยังเรียกว่าเป็นปกติอยู่ค่ะ!)


ช่วงก่อนหน้านี้ อารมณ์มันไม่ไหวเลย เครียดกับหลายๆเรื่อง เหมือนฉันจมอยู่ในความทุกข์ที่มืดมิด มองไม่เห็นแสงสว่างภายนอก แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า ควรทำตัวและทำใจอย่างไร ให้ฉันเดินอยู่บนเส้นขนานของคำว่าทุกข์และสุข


การเปิดใจรับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้ได้ ถือเป็นจุดที่สำคัญที่สุดในชีวิต ทำใจให้กว้างเข้าไว้ ไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่ถือตัวเองเป็นคนสำคัญ แต่ก็ไม่ควรเอาใจใครคนหนึ่งมากเกินไป น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่รู้สึกเหมือนที่ฉันเคยเป็น การยึดติดกับหลักการหรือความเชื่อมั่นในตนเองมากไป ในบางครั้งใช่ว่ามันจะดี เราต้องผ่อนมันลงบ้าง บางอย่างมันตีงได้ แต่บางอย่างเราไม่สามารถตึงอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา จะเป็นตัวเราเองที่เจ็บและปวดเสียมากกว่า


ใช่ว่าฉันปลงแล้วกับเรื่องราวของชีวิตที่ได้เจอะเจอ แต่เพียงฉันเปิดใจยอมรับกับสิ่งที่เรียกว่ามายาในโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ได้แล้วต่างหาก


พอแล้วสำหรับความโดดเดียว อ้างว้างที่ซ่อนตัวอยู่ภายในจิตใจ ตอนนี้ขอต้อนรับเพื่อนใหม่คนเก่าก่อนที่ชื่อว่าความสนุกสนาน ร่าเริงบ้างละกัน ถึงแม้เพื่อนใหม่คนเก่ากำลังครอบคลุมจิตใจอยู่ ณ ตอนนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะอยู่ไปนานเท่าไหร่เหมือนกัน บอกตามตรงนะคะ ฉันก็กลัวว่าความโดดเดี่ยว อ้างว้างที่ซ่อนตัวเงียบๆ ภายในจิตใจของฉัน จะออกมาทำพิษฉันอีกครั้งเหมือนกัน ออกมาบ้างบางครั้งคราวน่ะไม่ว่ากันหรอกค่ะ แต่ออกมานานๆ เดินป้วนเปี้ยนแถวนี้นานๆ คงไม่ไหวล่ะ


เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ฉันไปร้านหนังสือเดินทางที่ถนนพระอาทิตย์มาค่ะ ไปเพราะจะไปซื้อหนังสือเดินทาง แล้วก็หนังสือทำมือเล่มนึง แต่ปรากฎว่าตอนนี้พี่หนุ่มแกไม่ได้ขายหนังสือทำมือแล้ว เหตุผลเพราะว่า เจ้าของหนังสือทำมือ ไม่ค่อยมาดูงานของตนเองซักเท่าไหร่ บางรายทิ้งไว้หลายปีไม่มาดูความคืบหน้าของงานตัวเองเลย พี่แกเลยไม่ได้วางขายแล้ว เสียดายจังค่ะ เพราะฉันน่ะ ตั้งใจไว้เป็นดิบดีว่า จะหาหนังสือทำมือที่เพื่อนฉันทำกลับไปนอนกอดที่บ้านให้ได้ แต่แล้ว...ฝันสลาย


ใช่ว่าจะโชคร้ายค่ะ อย่างน้อยๆ ฉันก็ได้รู้มาว่า ที่สวนสันติฯ จะมีงานมหกรรมหนังสือทำมือครั้งยิ่งใหญ่ (พี่หนุ่มแกบอกมาอย่างนี้) เกิดขึ้นเดือนหน้า ถ้าจำไม่ผิดวันที่ 13-15 ค่ะ (ขอเน้นอีกทีค่ะ ถ้าจำไม่ผิด) และแน่นอนล่ะค่ะ ฉันต้องไปแน่ๆ วันใดวันหนึ่ง แต่ดูแล้วว่าสงสัยจะต้องโดดเรียนไปล่ะคราวนี้! ใครที่ชอบหนังสือทำมือเหมือนกัน อย่าลืมไปดูงานนี้นะคะ


วันที่ไปร้านหนังสือเดินทาง เห็นกระดาษแปะที่บอร์ดว่า ทางร้านจะทำการย้ายร้าน อารมณ์แรกที่ได้อ่านรู้สึกอึ้ง เพราะไม่อยากให้ย้าย ร้านนี้อยู่กับถนนเส้นนี้มาก็หลายปีทีเดียว มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์เด่นๆ อย่างนึงเลยล่ะค่ะ มีป้อม มีสวนสันติ มีร้านมะตะบะ และก็มีร้านหนังสือเดินทาง มันรวมอยู่ตรงสุดปลายถนนเส้นแห่งความฝันของใครหลายๆคน ถนนที่มือชื่อว่าถนนพระอาทิตย์


ถึงแม้ว่าร้านจะไม่ได้ย้ายไปไกลสักเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ที่เดิม ไม่ใช่มุมเดิม บรรยากาศภายนอกไม่เหมือนเดิม แต่เชื่อย่างหนึ่งว่า เมื่อย้ายไปแล้ว บรรยากาศภายในยังคงเหมือนเดิม พร้อมเจ้าของคนเดิมค่ะ

::I Will Be Back Soon::


หลังจากที่พักไปยาวถึง2อาทิตย์ ในที่สุดก็ได้เวลาที่จะต้องกลับมาเสียที ช่วง2อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ออกไปโบยบินอย่างที่บอกไว้ ได้เจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ หลายๆอย่าง ถึงแม้จะเหนื่อยกับการเดินทาง แต่ก็ยินดีและพอใจที่จะเดินต่อไป เพราะสิ่งที่ได้มามันช่างคุ้มค่ากับความเหนื่อยและหลายๆ สิ่งที่สูญเสียไป


ช่วงนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่ต้องปรับปรุง แก้ไข และเปลี่ยนแปลง คงต้องใช้เวลากับตัวเองอีกซักพัก ดังนั้นฉันขอโทษด้วยถ้าไม่ได้ไปทักทายคุณในไดอารี่ แต่ฉันคิดว่าหลังจากเดือนนี้ไป อะไรๆ คงลงตัวมากขึ้น เมื่อถึงวันนั้น ฉันก็จะกลับมาอย่างเต็มตัวค่ะ


Take care and good luck :) I'll be back soon.