::พอเหมาะ พอดี::


ที่จริงแล้วก็คิดอยู่ เสมอว่าปัญหาทุกปัญหามันก็มีทางออกของมัน แล้วทางออกที่ว่าก็ไม่ได้มีทางเดียว มันก็มีหลายทางให้เราเลือกที่จะออกประตูไหน มีเส้นทางที่ไม่เท่ากัน สั้นบ้าง ยาวบ้างก็อยู่ที่เราจะเลือก หลายๆ ปัญหาก็ต้องใช้เวลาซักนิด เวลาจะบอกว่าเราควรไปทางไหน เราควรทำอะไร ทำอย่างไร
แต่หลายครั้งที่ฉันมักจะ วิตกจริตไปก่อน ทั้งๆที่ก็มีเวลาอีกเหลือเฟือในการหาทางออก เป็นพวกคิดเกินกว่าเหตุในหลายๆ ครั้ง แล้วเป็นพวกชอบคิดกลับไปในอดีตว่า ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้นก็คงจะดี เรารอบคอบกว่านั้นก็คงจะดี ถ้าเรา ... ถ้าเรา .... ฯลฯ
แต่ใครจะรู้ล่ะว่าทำยัง ไงถึงจะดีที่สุด ฉันก็คิดเพียงว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ในอนาคตเกิดอะไรขึ้นก็ค่อยมาว่ากันอีกที วันนี้พอใจที่จะทำอย่างนี้ คิดอย่างนี้ แค่นี้ก็พอ
แต่พอถึงอนาคตจริงๆ ก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้กลับไปคิดเรื่องที่ทำไว้ไม่ได้ซะที เคยคิดเหมือนกันว่า สิ่งที่เราเรียกว่าปัญหามันอาจไม่ใช่ปัญหาก็ได้ แต่ปัญหาจริงๆมันอยู่ที่ความคิดมากของคนเราเองนี่แหละ
.....
บางสิ่งบางอย่างเราต้องทำให้พอเหมาะ พอดี ... ถึงจะดี?
บางสิ่งบางอย่างเราต้องทำให้เกินพอเหมาะ พอดี ... ถึงจะดี?
แต่หายากที่เราต้องทำให้น้อยกว่าความพอเหมาะ พอดี ... แล้วมันจะดี?

::บ่นๆ เรื่องเรียนๆ::


หายไปนานเลย แบบว่าไม่มีอะไรจะเขียน มันก็เรื่องเดิมๆ ช่วงนี้กราฟชีวิตมันสูงๆ ต่ำๆ แต่ว่าไปแล้วอย่างนี้แหละเนอะเค้าเรียกว่าสีสันของชีวิต จะมาราบเรียบตลอดเลยมันจะไปสนุกอะไร ... (แต่บางทีมากไปอาจทำให้ขมับสั่นไหวได้!!)
.....
เทอมนี้เรียกได้ว่าเรียน หนักมาก ถึงแม้จะหยุด 3 วันต่ออาทิตย์ก็ตาม แต่วันที่เหลือนี่ก็เรียนตั้งแต่ 8.40 - 16.30 ทุกวัน วันหนึ่งได้กินข้าวมื้อเดียว ตอนแรกที่ลงเรียนนึกว่าตัวเองทำได้ คิดในใจว่า "โอ๊ย สบายๆ เรียนทั้งวัน มันก็ต้องซักวิชาสิที่ไม่เช็คชื่อ" ที่ไหนได้เทอมนี้เป็นบ้าไรกันไม่รู้ เล่นเช็คทุกวิชา เก็บคะแนนทุกครั้ง แถมเทอมนี้เรียนทั้งบัญชี สเตด เศรษศาสตร์อีก เวลาใกล้สอบอ่านสนุกเลยทีนี้ ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ต่อไปฉันจะไม่ลงเรียนเกินบ่าย2 อีกแล้ว ถึงบ้านนี่ไม่ต้องทำอะไรเลย ทำงานบ้าน อาบน้ำ นอน แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว แถมการบ้านยังเยอะอีก สูตรไรเยอะแยะไปหมด ท่องไปท่องมาสลับวิชากันซะงั้น -"-
ที่จริงวันนี้ต้องไปฟัง เรื่องการเลือกคณะที่มอ แต่ว่าความขี้เกียจกวนใจไม่หยุดไม่หย่อน จะห้ามมันก็ไม่ฟัง เลยต้องตามใจมัน เปลี่ยนโปรแกรมจากไปฟังบรรยายไปเป็นเข้าโรงหนังคลายเครียดซะงั้น เมื่อวานก็โดดเรียนเศรษศาสตร์ไปทำทรีตเม้นต์หน้ามาแล้วครั้งนึง แบบว่ามันฟรีแล้วน่ะ เลยต้องรีบไปก่อนหมดวัน >.<
ถึงแม้จะเรียนหนักแค่ไหน ฉันก็สามารถหาเวลาไปนอนชมทะเลได้ ไปมาเมื่อพฤหัสที่แล้ว ส่วนรูปภาพ และ รายละเอียดตามอ่านได้ที่ http://nonbalance.diaryis.com เพราะคิดว่าถ้าเขียนเองก็คงไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ ทั้งความรู้สึก และมุมมองต่างๆ
.....
เพื่อน คือ ตัวแปรหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับฉัน และคงรวมถึงหลายๆ คน ฉันไม่ใช่คนที่ตามเพื่อน หรือติดเพื่อน แต่บางครั้งฉันก็ขาดเพื่อนไม่ได้
ฉันเข้าใจว่าเพื่อนก็ ต้องมีโลกของเค้าเหมือนที่ฉันมีโลกของฉัน แต่บางครั้งการที่เราเข้าใจอะไรบางสิ่งมันไม่เพียงพอ เราต้องรู้สึกให้ได้อย่างที่เราเข้าใจด้วย วันนี้ฉันเข้าใจ และฉันก็กำลังรู้สึกกับมัน ...

::แงะ::



ตัวเราก็เป็นของเรา ไม่จำเป็นต้องไปติดกับคนอื่น .. จริงมั้ย? ไม่ใช่เพิ่งจะคิดได้ แต่คิดได้นานแล้ว แต่บางทีมันยังแงะออกมาไม่ได้อย่างที่ต้องการ

โทรไปเคยรับสายทันที ถ้ายิงไปก็โทรกลับมาทุกที ชวนไปไหนก็ไม่เคยปฏิเสธ กลุ้มใจเรื่องอะไรก็ระบายออกมาได้ ฯลฯ

แต่ ... หลายเดือนที่ผ่านมา หลายอย่างไม่เหมือนเดิม ต้องใช้เวลาซักพักเพื่อแงะตัวเองออกมา อาจจะเพราะอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องชีวิตส่วนตัว เรื่องเพื่อนๆ คนอื่น ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าเลวร้ายอะไร ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร แต่บางทีมันก็สงสัยอะไรบางอย่าง แอบน้อยใจบ้าง แต่อย่างว่าปากหวานก้นเปรี้ยวมีเห็นทั่วไป จะคิดอะไรมากมาย จริงมั้ย? ฉันไม่ได้ตัดเยื่อใย ไม่ได้ไม่สนใจหรือไม่เป็นห่วง เมื่อถึงวันที่ให้จนเกือบจะหมดตัว ก็เป็นธรรมดาที่ปริมาณมันก็น้อยลงไป ฉันมันก็เป็นแค่คนธรรมดา รู้สึกเจ็บ รู้สึกแย่ ก็คิด ก็รู้สึก ไม่ได้เป็นแม่พระที่เป็นคนดีตลอดเวลา อะไรไม่ได้ดั่งใจมันก็มีบ้างที่เอาแต่ใจ ... ฉันมันคนเลวฝังในนี่น่า!!!

วันนี้ ตอนนี้ แงะตัวเองออกมาได้แล้ว ไม่มีเค้าก็ไม่เป็นไร เหงาๆ ก็ลองโทรหาคนอื่นดู เออ .. ฉันก็ไม่ได้ตัวคนเดียวนี่หว่า มีคนนู้นคนนี่อีกมากมายที่อยู่เป็นเพื่อน มันทำให้ฉันรู้ว่า ยังมีคนอีกไม่น้อยเหมือนกัน ที่คอยดูแลฉันห่างๆ และเมื่อถึงเวลาใดที่เราล้ม พวกเค้าก็ไม่รีรอที่จะก้าวเข้ามาช่วยเหลือ ... บางทีปากจัดๆ แต่จริงใจมันยังดีซะกว่า
.....


ว่าจะไม่เขียนเรื่องนี้นะ แต่แบบขอเก็บไว้อ่านดีกว่า