::Love Actually::


Dealing with life is hard, we all know. But sometimes we have to admit that dealing with love is harder, much more harder. It is not just about you, not just about yourself, but also your partner, your better half.

I believe love is the foundation of everything in the world. You love people, so you do good to them. You love animals, so you raise them well. You love your dream job, so you try hard to get it. You love the nature and other stuffs, so you protect them as good as you can. Although I got hurt from this feeling; love, but I always feel good when people talk about love, always enjoy reading love novels, always have positive thought about love. Because all experiences I've passed I don't think it is love that hit me hard, but people.

I am single and very proud to be and don't have plan to get in a relationship in this year. However, don't judge me from that sentence. To be proud of being single and independent doesn't mean I don't believe in love, because actually I do. Someday in the future I will settle down, I will cuddle him when the weather is like today; cold and cloudy. 

I still wait for my man; my future better half. A man who will be beside me, who will go to the North, and the South, and the East, and the West with me. A man who will make me laugh out loud, who will hug me tightly when something bad happens. A man who doesn't care how many cups of coffee I have a day, who doesn't mind to have ugly but happy self-portrait with me. A man who takes care himself well, who is responsible for his words and duties. A man who works hard and loves me hard as well.

Love is not always beautiful, but at least it is still beautiful.


"Have I told you lately that I love you?
Have I told you there is no one else above you?
Fill my heart with gladness,
Take away all my sadness,
Ease my troubles that is what you do."

::1000 Steps::








It's not about the destination, but the journey and people along the way.
[Some pictures were taken by Ari & Phoenix.]

::ไม่เคยห่างกัน::



อยู่ตรงนั้นเธอเองจะเหงาสักเท่าไร
อยู่ตรงนี้ยิ่งเหงาเท่าไรก็ยิ่งรู้ว่าฉันยิ่งรักเธอ
ต่อให้เนิ่นนานที่เราไม่เจอะเจอ
ทุกนาทีหัวใจเรานั้นไม่เคยจะห่างกัน

I know now where I belong

::เพราะไม่เข้าใจ::



คิดว่าเพียงรักกันก็คงเพียงพอจะเดินร่วมทาง
ความเป็นจริงอีกตั้งหลายอย่าง
เราต่างคนก็มองเลยข้ามไป

เพิ่งจะได้รู้ที่แท้เราก็เพียงรักกัน
แต่ความรักเท่านั้นไม่พอและไม่ง่ายดาย
เพิ่งจะรู้ว่ารักที่ไม่เคยเข้าใจ
จะอย่างไรรักนั้นก็คงจบในไม่นาน
และต่างก็ต้องเสียใจ ไม่อาจจะไปด้วยกัน
เหมือนเธอและฉันที่ไม่มีวันเหมือนเดิม

Keep Calm And Enjoy The Last Day Of Semester




It's unbelievable this is the first post in 2015, UNBELIEVABLE!!! It seems like I've been super busy these past 5 months. I'm here, though.

This year goes crazy, like a lot crazy, particularly at school. I had a variety of assignments to challenge. If think positive, it's good thing, isn't it? Many new experiences came to my life and I fought to death in order to pass those shits. It's worth fighting, and consequently I got a good one. I told myself I deserved that; Jair, you deserved everything you've got today.

In the beginning of February, Tao visited me. It's our first time traveling outside Thailand together. Traveling with Tao is always the best thing ever. We roamed around Melbourne, went to the great ocean road, visited the zoo in Ballarad. Oh my god, it's my first time going to the zoo since I'm here. We also went to Sydney together and I was like fall in love with the atmosphere there even though Thai people are around every corner.

Tao said goodbye and went back to Thailand, but my journey continued. I headed north to Brisbane and Gold Coast to fulfill my bucket list. One thing I've learned from this trip is don't travel alone on Valentine's day. Don't do it if you aren't ready to see a million couples sharing their love in the public places. Love was everywhere in that day.

I said 27 is sexy, and I've already passed that sexy year. I'm now 28. What should I say about this number? What is it supposed to be with this age? Anyway, one thing I'll always keep it in my mind is my 28th birthday. Yes, I promise, I will. It's the first birthday I'm somewhere, not home. It's the first birthday I didn't stay with my family, but friends and it's pretty awesome. I didn't mean it's awesome because I was with friends or I got many gifts, but the moment they spent time with me, the moment we spent time together. I was overwhelmed with happiness. To be honest, I still am. Thank you all for every thing you did for me. It means a lot, A LOT.

Photography class ruined my confidence, passion, believe, or it's easier to say it ruined everything that related to my feeling for art. It doesn't mean I got lower score than my expectation so I said like this. I honestly always believe that to decide it is a good photograph or not is very very personal perspective. It's okay to comment about technique but photography is not just about technique. It's about something more than that, deeper than that. Photography is another way to tell the story through your eyes. And sometimes, the story in your eyes doesn't need to be sharp. It could be a little bit blur and out of focus. We all have our own styles to tell our stories. Open your mind. Open your eyes. Be creative.

Damn! this thing really pisses me off.

But I don't care about it anymore, sorry sir! I don't want it to limit my love for photography. I told myself I'd follow my own believe, my own path. And I did it today.

How long didn't I take picture with my own style? How long didn't I take picture with happiness? I don't know, but I just know it's too long. Carmen and I caught up this morning, had a wonderful breakfast and then took picture around the CBD. Taking picture with her is fun, but I think we chatted more than snapped. Anyway, that's good and I love it this way. Seriously, she is the one who I always enjoy spending time with. She is my good friend, my lovely sister, my sweet little one.

The semester ended, eventually. But wait, there are 3 projects and 2 exams to go!

เรื่องเล่าวันฟ้าหม่น 001



หก ธันวาคม สองพันห้าร้อยห้าสิบเจ็ด
เมลเบิร์น
เมื่อวานนี้

"เสียงคลื่นซัดสาด มองเห็นไกลสุดขอบฟ้า 
มีทะเลทุกเวลาแต่บางทีไม่มีเธอ 
คลื่นซัดหาฝั่งเหมือนใจร่ำคร่ำครวญหา 
จากกันไปตามเวลา จากกันให้เธอสุขใจ"

หลังจากสวมกอด บอกลา และแยกย้ายกับจิงแถว Fitzroy แล้ว ฉันเดินรับลมลัดเลาะไปตามถนน Brunswick มาจนถึงแยก Victoria Parade ตั้งใจว่าจะเดินเล่นไปเรื่อยๆ เหนื่อยเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับบ้าน

ทุกเมืองใหญ่ก็คงไม่ต่างกันมากซึ่งเมลเบิร์นก็ไม่ใช่เมืองที่ถูกยกเว้น เวลายามเย็นหนุ่มสาวน้อยใหญ่ต่างเร่งฝีเท้าเดินทางกลับบ้าน บ้านที่อบอุ่น บ้านที่ดูเหมือนว่าอบอุ่น บ้านที่ความอบอุ่นอาจเคยมีในวันเก่าก่อน หรือแม้แต่บ้านที่ความอบอุ่นไม่เคยได้ย่างกายเข้ามาชิดใกล้ บ้านในนิยามที่หมายถึงที่พักกาย บ้านในนิยามที่หมายถึงที่พักใจ

ระหว่างที่ฉันกำลังคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในนิยามคำว่าบ้าน รถรางสาย 109 ก็มาจอดตรงหน้าพอดี ฉันจึงเปลี่ยนใจไปที่ๆ ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นบ้านที่ช่วยเติมความอบอุ่นให้หัวใจในเย็นวันศุกร์ที่ท้องฟ้าหมองหม่นอย่างเช่นวันนี้

Port Melbourne คือสถานีปลายทางของรถรางสายนี้ ใช่, ฉันมาทะเลในวันที่ฟ้าครึ้ม ลมโหมพัดแรง และดูท่าแล้วฝนก็กำลังตั้งเค้าอยู่ไม่ไกล ประหลาดหรือ? ไม่เลย ฉันแค่เป็นหนึ่งในคนส่วนน้อยที่ชอบทะเลหน้าฝนและรักทะเลหน้าหนาวก็เท่านั้นเอง

หนาว คือความรู้สึกที่รับรู้ได้ระหว่างเดินริมหาดมาเรื่อยๆ ไม่นานฝนก็เริ่มโปรย แม้ไม่หนักถึงขนาดต้องหาที่หลบ แต่มันก็ทำให้ฉันเปียกปอนอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน

ฝนก็เหมือนอารมณ์คน เธอว่ามั้ย? เธอลองสังเกตดูสิ ฝนน่ะมันอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป คล้ายกับอารมณ์ของคนเราที่มันเอาแน่เอานอนไม่ได้ ดูอย่างตอนนี้สิ จู่ๆ ฝนก็หยุดตกเสียอย่างนั้น แล้วอารมณ์ของฉันก็จมดิ่งสู่ห้วงความคิดถึงใครบางคนขึ้นมาเสียดื้อๆ 

ใครบางคนที่ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาคือใคร หรือใครคนนั้นจะเป็นเธอ ใช่เธอหรือเปล่า หื้ม?

ที่จริงวันนี้ฉันมีเรื่องเล่าอีกเยอะแยะเลย แต่สงสัยจะดื่มน้ำเยอะไปหน่อย แถมทานไอศครึมมาด้วย ขอไปเดินหาห้องน้ำก่อนนะ แล้วว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังใหม่

รักษาสุขภาพด้วยนะ คิดถึงเสมอ
ฉันเอง

::วันแรก เดือนสุดท้าย สองพันห้าร้อยห้าสิบเจ็ด::



เป็นหนึ่งปีในช่วงระยะหลังที่ไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรกระทบจิตใจ ในทางกลับกันนี่ก็เป็นหนึ่งปีในช่วยระยะหลังที่เราไม่ค่อยได้เดินทางไปไหน ไม่ค่อยได้หยิบกล้องถ่ายรูปออกมากดชัตเตอร์เก็บเรื่องราวระหว่างเส้นทางชีวิตดั่งใจหวัง แต่เหนือสิ่งอื่นใดปีนี้ก็มอบโอกาสให้เราได้เรียนในสิ่งที่อยากรู้ ได้รักในสิ่งที่ลงมือทำจริงๆ เสียที 

หลายวันมานี้เราโหยหาหลายสิ่งหลายอย่างที่เคยทำ หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยผ่านเข้ามา เราโหยหาความรู้สึกที่บีบคั้นทางอารมณ์ที่เราเคยเผชิญและก้าวผ่านมันมาได้ ปีนี้มันไม่ทุกข์ แต่ก็สุขได้ไม่สุด หรือเราอาจจะยังไม่ชิน ทุกปีที่ผ่านมาความรู้สึกมันต้องถูกบีบคั้น รวดร้าว เราจะรู้สึกถดถอยและท้อแท้ เราอาจดูเหมือนคนเข้มแข็ง แต่แท้ที่จริงเราแพ้ง่ายกว่าที่ใครหลายๆ คนจะเชื่อ แต่เราไม่ได้แพ้ให้กับทุกเรื่อง อย่างน้อยในเรื่องที่ส่งผลต่อความต้องการภายในจิตใจ เราไม่เคยนิ่งเฉย เราไม่เคยไม่คิดสู้ 

แต่ปีนี้มันง่ายไป อะไรหลายๆ อย่างได้มาง่าย มันง่ายจนเรากลัวว่าเราจะลืมความยากลำบากที่เคยพานพบ ชีวิตเราเคยเป็นดั่งใจหวังเสียทีไหน เรื่องความรู้สึกจิตใจนี่ก็สำคัญมากสำหรับเราเสียด้วย

เรารู้และเข้าใจดีว่าไม่มีอะไรคงที่ถาวร ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปสิ่งหนึ่งที่เรายังคงหวาดกลัวเสมอคือการถูกกลืน เรากลัวว่าเมื่อลมพายุพัดมาแรงมากๆ ใจเราจะต้านทานมันไม่ไหว เรากลัวว่าสักวันเราจะถูกกลืนไปกับสังคมและผู้คนที่เราเคยตราหน้าไว้ว่าเราจะไม่มีวันเป็นอย่างพวกเขา เรากลัวว่าสักวันความศรัทธาในสิ่งที่เรารักและสิ่งที่เราเป็นจะไม่แรงกล้าเท่ากับวันนี้ เรากลัวว่าสักวันความภูมิใจในตัวเองจะลดน้อยถอยลงจนไม่เหลือเลย เรารักตัวเองมาก และเราก็กลัวใจตัวเองมากด้วยเช่นกัน 

เราพยายามเตือนตัวเองเสมอว่าแม้เราจะเดินทางอย่างโดดเดี่ยวในหนทางที่เลือกเดิน แม้เราจะไม่มีจุดหมายปลายทางที่ตายตัว แม้เราจะไม่มีแผนที่ในมือบอกเส้นทางที่ชัดเจน แต่เราก็มีเรื่องราวต่างๆ มีผู้คนที่พบเจอระหว่างทางเข้ามาช่วยขับกล่อมให้คลายเหงา แม้ไม่ได้มากมากเท่าไหร่ แต่ก็พอมี 

ความฝันมีพลัง
แรงบันดาลใจก็มีพลัง
จิตใจความรู้สึกนี่ตัวส่งพลังเลยล่ะ