::วันแรก เดือนสุดท้าย สองพันห้าร้อยห้าสิบเจ็ด::



เป็นหนึ่งปีในช่วงระยะหลังที่ไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรกระทบจิตใจ ในทางกลับกันนี่ก็เป็นหนึ่งปีในช่วยระยะหลังที่เราไม่ค่อยได้เดินทางไปไหน ไม่ค่อยได้หยิบกล้องถ่ายรูปออกมากดชัตเตอร์เก็บเรื่องราวระหว่างเส้นทางชีวิตดั่งใจหวัง แต่เหนือสิ่งอื่นใดปีนี้ก็มอบโอกาสให้เราได้เรียนในสิ่งที่อยากรู้ ได้รักในสิ่งที่ลงมือทำจริงๆ เสียที 

หลายวันมานี้เราโหยหาหลายสิ่งหลายอย่างที่เคยทำ หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยผ่านเข้ามา เราโหยหาความรู้สึกที่บีบคั้นทางอารมณ์ที่เราเคยเผชิญและก้าวผ่านมันมาได้ ปีนี้มันไม่ทุกข์ แต่ก็สุขได้ไม่สุด หรือเราอาจจะยังไม่ชิน ทุกปีที่ผ่านมาความรู้สึกมันต้องถูกบีบคั้น รวดร้าว เราจะรู้สึกถดถอยและท้อแท้ เราอาจดูเหมือนคนเข้มแข็ง แต่แท้ที่จริงเราแพ้ง่ายกว่าที่ใครหลายๆ คนจะเชื่อ แต่เราไม่ได้แพ้ให้กับทุกเรื่อง อย่างน้อยในเรื่องที่ส่งผลต่อความต้องการภายในจิตใจ เราไม่เคยนิ่งเฉย เราไม่เคยไม่คิดสู้ 

แต่ปีนี้มันง่ายไป อะไรหลายๆ อย่างได้มาง่าย มันง่ายจนเรากลัวว่าเราจะลืมความยากลำบากที่เคยพานพบ ชีวิตเราเคยเป็นดั่งใจหวังเสียทีไหน เรื่องความรู้สึกจิตใจนี่ก็สำคัญมากสำหรับเราเสียด้วย

เรารู้และเข้าใจดีว่าไม่มีอะไรคงที่ถาวร ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปสิ่งหนึ่งที่เรายังคงหวาดกลัวเสมอคือการถูกกลืน เรากลัวว่าเมื่อลมพายุพัดมาแรงมากๆ ใจเราจะต้านทานมันไม่ไหว เรากลัวว่าสักวันเราจะถูกกลืนไปกับสังคมและผู้คนที่เราเคยตราหน้าไว้ว่าเราจะไม่มีวันเป็นอย่างพวกเขา เรากลัวว่าสักวันความศรัทธาในสิ่งที่เรารักและสิ่งที่เราเป็นจะไม่แรงกล้าเท่ากับวันนี้ เรากลัวว่าสักวันความภูมิใจในตัวเองจะลดน้อยถอยลงจนไม่เหลือเลย เรารักตัวเองมาก และเราก็กลัวใจตัวเองมากด้วยเช่นกัน 

เราพยายามเตือนตัวเองเสมอว่าแม้เราจะเดินทางอย่างโดดเดี่ยวในหนทางที่เลือกเดิน แม้เราจะไม่มีจุดหมายปลายทางที่ตายตัว แม้เราจะไม่มีแผนที่ในมือบอกเส้นทางที่ชัดเจน แต่เราก็มีเรื่องราวต่างๆ มีผู้คนที่พบเจอระหว่างทางเข้ามาช่วยขับกล่อมให้คลายเหงา แม้ไม่ได้มากมากเท่าไหร่ แต่ก็พอมี 

ความฝันมีพลัง
แรงบันดาลใจก็มีพลัง
จิตใจความรู้สึกนี่ตัวส่งพลังเลยล่ะ

No comments:

Post a Comment