::It Is Supposed To Be A Rainy Friday::


ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงนาฬิกาปลุกดังตามเวลาที่ตั้งไว้
เราเอื้อมหยิบมือถือดูเวลา เจ็ดโมงสิบเก้านาทีตามที่ตั้งไว้เมื่อคืน
กดปิด เลื่อนเวลา และนอนต่อตามสเต็ปเหมือนอย่างทุกวัน
 
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นอีกครึ้ง
เจ็ดโมงห้าสิบนาทีคือเวลาในจอมือถือ
เรานอนกลิ้งไปกลิ้งมา แต่ปรากฏว่าหันซ้ายหันขวาได้ไม่มากนัก
เรานอนตกหมอน!

กลิ้งจนพอใจ
กระเด้งตัวลุกขึ้น
อาบน้ำ แต่งตัว
วันนี้มีนัดกับโซลิต้าและเพื่อนๆ ในเมือง

เก้าโมงสิบนาทีเดินออกจากบ้านพร้อมอากาศอึมครึม
แอนโทนิโอผิวปากเรียกตอนรอรถไฟที่สถานี
เราทั้งคู่สภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
เหมือนซอมบี้ที่โหยหาหมอน ที่นอน และผ้าห่ม
ก่อนรถไฟจะมาสองนาที อาเมียก็เดินมาสมทบ

Flinder Station คือสถานที่รวมตัว
เก้าโมงครึ่งคือเวลานัดหมาย
แอนโทนิโอ อาเมีย และเราไปถึงประมาณเก้าโมงสี่สิบห้า
แน่นอน, คนอื่นๆ ไปถึงกันแล้ว ยกเว้นโซลิต้า

ระหว่างนั่งรอโซลิต้า อนาเม้าท์เรื่องอาเมียให้ฟัง
เรื่องราวของอาเมียไม่ใช่แค่เรากับอนาที่สนใจ
ตอนทานข้าวกลางวันจอร์แดนกับแอนโทนิโอก็แอบเม้าท์มอยเรื่องนี้
เราทั้งหมดเหมือนจะได้ข้อสรุปอะไรบางอย่างที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน!

โซลิต้า ในที่สุดเธอก็มา
ว่าแล้วว่าโซลิต้าต้องพาพวกเราไปจิบกาแฟละเลียดเค้กที่ Brunetti
เราจิบลาเต้ และแชร์เค้กกับอนา

ACMI ดีเกินคาด เราชอบที่นี่แฮะ
สี่สิบห้านาทีสำหรับเรามันไม่พอ
เราสนใจทุกอย่างในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

โซลิต้าพาพวกเราไปทานข้าวที่ Lygon Street
จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อร่อยใช้ได้เลยล่ะ
แม้จะแพงไปหน่อยก็เถอะ

ระหว่างทาง
เราได้พูดคุยและเรียนรู้เพื่อนหลายๆ คนมากขึ้น

อนาคือเพื่อนคนแรกที่นี่ที่เรารู้สึกว่าเราคุยได้ด้วยความสบายใจ
ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่ที่ต้องคอยดูแลน้อง
ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นน้องที่ต้องคอยเกรงใจพี่
เราชอบที่อนาเป็นคนใจกว้างมาก เปิดรับ และพยายามเข้าใจคนอื่น

ยิ่งพอได้คุยกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น เรารู้เลยว่าเราเอ็นดูแอนโทนิโอมาก
เวลามองหรือคุยด้วยก็มักจะมีภาพมาแจมทับซ้อนอยู่ลางๆ
แอนโทนิโอเหมือนเจ้าหนูจำไม อยากรู้ อยากเห็น ตลอดเวลา

เราเพิ่งรู้ว่าจอร์แดนชอบถ่ายรูปเหมือนกันกับเรา
จอร์แดนเป็นคนที่มีมารยาท จิตใจดี และนิสัยดีมาก
แม้จะชอบทำหน้าตาเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา
แต่จริงๆ เป็นคนสนุกสนานและช่างเม้าท์ไม่ต่างจากแอนโทนิโอเลย

ถ้าเปิดใจให้กว้าง ธานีไม่ได้แย่อะไรนัก
เรากลับรู้สึกว่าธานีก็คุยสนุกและเป็นกันเอง
เราชอบเวลาธานีคุยกับแอนโทนิโอ
คล้ายๆ กับเวลาที่แป้งคุยกับแอนโทนิโอไม่มีผิด

ดิงช็อคไปเลยพอรู้ว่าเราอายุยี่สิบหก
ส่วนเราดีใจที่เขาบอกอายุจริงของเขาให้เรารู้
ไม่ได้โกหกเหมือนเวลาเขาบอกคนอื่น
ดิงอายุยี่สิบแปด

สตรองก็คือสตรอง
เป็น the greatest chinese guy on earth สำหรับเราเสมอ

ไรอันหมกมุ่นกับการหารงานพาร์ทไทม์
เราว่าไรอันเป็นคนที่วิชาการสุดโต่ง
เวลาถามอะไรมาทีนึกว่ากำลังอยู่ในห้องสัมภาษณ์งาน

เราต้องยอมรับว่าเราการพูดคุยกับเพื่อนๆ ชาวอาหรับ
มุตตาฟา และสองอาเมียนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราเลย
ถ้าไม่ใช่เรื่องเรียนแล้วก็เหมือนอยู่กันคนละวงโคจร

ส่วนจี เราไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับเขา สงสารเสียด้วยซ้ำ
แต่ก็ไม่รู้สินะ!

เรากับดิงมีความคิดเหมือนกันว่า
โซลิต้าก็คือสภาพอากาศในเมลเบิร์นดีๆ นี่เอง
เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวลมแรง เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก
แปรปรวนเกินกว่าจะคาดคะเน



ห้าโมงเย็นแล้วนะเธอ
เรารอเธอมาทั้งวัน
เพราะตามพยากรณ์อากาศ
it's supposed to be a rainy friday.

No comments:

Post a Comment