เข้าวันที่ 5 แล้วที่ไม่ได้เปิดคอมพิวเตอร์ เข้าอินเตอร์เน็ต
ติดต่อสื่อสารกับโลกไซเบอร์อย่างเต็มตัว
มีบ้างที่เช็คความเป็นไปของผู้คนผ่าน facebook
บันทึกความคิดความรู้สึกผ่าน 140 ตัวอักษรใน twitter
โดยมีโทรศัพท์ smart phone เครื่องจิ๋วเป็นตัวเชื่อมโยง
การที่เทคโนโลยีประเภทนี้เกิดขึ้นและมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
บ่งบอกให้เห็นว่ามนุษย์เราทุกคนเป็นสัตว์สังคมอย่างสมบูรณ์
วันนี้ฉันออกจากบ้านมาแต่เช้าตรู่พร้อมสมุดบันทึก กล้องถ่ายรูป
และหนังสือ
"ผ้าปูโต๊ะกับลมหมอ การเดินทางธรรมดาในห้าทวีป"
ที่ถูกบรรจุอยู่ในกระเป๋าสีน้ำตาลใบเล็กคู่ใจ
เป็นเวลากว่า 2 เดือนที่ฉันไม่ได้เหยียบย่างมาที่นี่
ร้านกาแฟร้านเล็กที่ถูกแฝงตัวอยู่ในย่านธุรกิจของมหานครกรุงเทพ
ก่อนหน้านี้ฉันเคยประทับใจกับประโยคคำถามเรียบง่าย -
"เหมือนเดิมใช่มั้ยคะ?"
ซึ่งกลายเป็นคำทักทายในทุกๆ เช้าที่ฉันจะได้รับจากพนักงานที่นี่
ฉันยิ้มและตอบรับ นี่คือคำทักทายของฉันในทุกๆ เช้าเช่นกัน :)
เช้านี้ฉันได้รับคำทักทายอย่างเป็นมิตรเช่นเคยตั้งแต่ยังไม่ได้เดินก้าวเข้าไปในร้าน
"หายไปไหนตั้งนานเลย" น้องพนักงานวัยใส
ยืนทำความสะอาดอยู่หน้าร้านเอ่ยถามด้วยใบหน้าแต้มยิ้ม
หัวใจฉันกระตุ้นวูบไหวกับประโยคพื้นๆ ประโยคนี้ - ฉันว่ามันคือความปลาบปลื้มใจ
ฉันยืนนิ่งสักพักก่อนเอ่ยถึงสาเหตุของการหายไป ส่งยิ้ม ก่อนเดินเข้าไปในร้าน
พี่พนักงานสาวร่างอวบหันมายิ้มให้อย่างเช่นวันวานพร้อมประโยค
"เหมือนเดิมใช่มั้ยคะ?" มันเป็นประโยคที่เรียบง่ายที่ผู้ฟังสัมผัสได้ถึงความเอาใจใส่
ให้ตายเถอะ! ฉันยอมแพ้กับความเอาใจที่เสมอต้นเสมอปลายของร้านกาแฟแห่งนี้จริงๆ
บรรยากาศภายในร้านกาแฟแห่งนี้ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่แถวนี้
มีรอยยิ้มเล็กๆ เกิดขึ้นในหัวใจ
ฉันเลือกนั่งติดริมกระจกมองดูความเป็นไปของชีวิตที่รีบเร่งภายนอก
เพียงกระจกกั้น - ความก้องดังกับความเงียบงัน
จะว่าไปแล้วครั้งหนึ่งฉันก็เคยมีชีวิตอย่างนี้ ชีวิตที่แสนจะรีบเร่งร้อนรน
หนึ่งชั่วโมงผ่าน หนังสือของคุณโตมรถูกพลิกอ่านไปได้หลายหน้าแล้ว
ขอบอกตามตรงว่าฉันคิดถึงหนังสือสารคดีท่องเที่ยวแนวนี้สุดหัวใจ
หลายปีหลังมานี้หนังสือสารคดีท่องเที่ยวจากฝีมือนักเขียน-นักเดินทางรุ่นใหม่
ถูกวางอยู่บนชั้นในร้านหนังสือน้อยใหญ่มากมายเต็มไปหมด
แต่ดูเหมือนส่วนใหญ่จะเป็นรายละเอียดการเดินทางจากที่หนึ่งสู่ที่หนึ่ง
ไร้คำบรรยายเกี่ยวกับความเป็นไปของสังคม วัฒนธรรม ผู้คน ความเป็นอยู่ ฯลฯ
ถึงกระนั้น ก็ยังมีนักเขียน-นักเดินทางรุ่นใหม่ที่ฉันชื่นชมและประทับใจ
แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่เทียบเท่ากับนักเขียน-นักเดินทางรุ่นเก๋าหลายคน
ที่ตัวหนังสือของพวกเขายังคงอยู่ในหัวใจฉันเสมอ
การหยิบหนังสือของคุณโตมรเล่มนี้ติดมาด้วย
ยิ่งทำให้ฉันคิดถึงนักเขียน-นักเดินทางรุ่นเก๋าลายครามเหล่านั้น
โดยเฉพาะตัวหนังสือของคุณ
"ภาณุ มณีวัฒนกุล"
ที่มักจะกระตุ้นสมองให้คิดตามและกระตุกหัวใจให้อยากออกเดินทางไปด้วยทุกครั้ง
สำหรับฉัน, ฉันไม่ใช่นักเดินทางอาชีพที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาแล้วหลายพื้นพิภพ
ฉันเป็นเพียงหญิงสาวหัวใจเดินทางสมัครเล่นเท่านั้นเอง : )
บันทึกไว้ในวันสุดท้ายของเดือนแห่งความรัก
ณ ร้าน Zana's Bean Coffee, สุรวงศ์